โครงการวิจัยท้องถิ่น เรื่อง ศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางสังคมชุมชนบางเลียบ หมู่ 5 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12000 E-mail: vijaibangleab@gmail.com
วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
การเริ่มต้นใหม่
เดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น ทีมวิจัยได้มีการประชุมกัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทบทวนและวางแผนการทำใหม่กันอีกครั้ง ซึ่งก็ได้สรุปกันว่าจะเริ่มต้นการทำงานกันใหม่อีกครั้ง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการให้ได้แม้จะเลยกำหนดเวลาของโครงการไปแล้ว ก็จะขอขยายเวลาเพิ่มเิติมไปอีก 6 เดือน โดยเห็นพ้องต้องกันว่าเราจะใช้เวลาที่กำหนดนี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดทั้งกับโครงการและทีมวิจัยเองด้วย เพื่อให้ชุมชนบางเลียบได้ประโยชน์จากการวิจัยครั้งนี้ให้มากที่สุด
วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553
วันนี้
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เมื่อเริ่มทำงานวิจัยก็ได้มีโอกาสไปคุยกับผู้สูงอายุหลายคนในชุมชนซึ่่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับชุมชน แต่วันนี้เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีผู้สูงอายุคนหนึ่งต้องจากไปแบบไม่มีวันกลับ ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อนก็มีแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้รู้สึกวิตกและเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยว่าผู้สูงอายุในชุมชนกำลังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการสูญเสียที่สำคัญของชุมชน กล่าวคือ การสูญเสียบุคคลดังกล่าวเท่ากับเป็นการสูญเสียบุคคลผู้ที่เคยอยู่และอาศัยในชุมชนเป็นเวลานาน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งความรู้ ประสบการณ์ ภูมิปัญญา และคุณค่ากับชุมชนอย่างสูง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามธรรมชาติคงไม่มีใครห้ามหรือเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ทีมวิจัยจึงต้องเร่งดำเนินการต่าง ๆ ให้เร็วขึ้นแล้ว โดยหวังว่าการรวบรวมความรู้ ความคิด ความเห็น และภูมิปัญญาของผู้สูงอายุเหล่านี้และนำไปถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังต่อไป จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์และสืบทอดสิ่งสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ของชุมชนต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การพัฒนาการทำงาน
การศึกษาชุมชนที่ผ่านมีปัญหาหลายประการ ซึ่งหนึ่งในปัญหาดังกล่าวคือความเข้าใจของทีมวิจัย อาจเป็นเพราะการวิจัยเชิงปฏิบัติการเป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่ต้องทำความเข้าใจและศึกษาเรียนรู้พอสมควร ที่ผ่านมาเราก็พยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจึงไม่ได้อธิบายมากนัก แต่ดูเหมือนว่าพอทำวิจัยไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าหากทีมวิจัยไม่เข้าใจงานที่ตนทำ การที่จะหวังให้ชาวบ้านเข้าใจและให้ความร่วมมือจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร ดังนั้น เราจึงต้องทบทวนบทบาทของตนเองในด้านต่าง ๆ ที่ได้ทำมา เช่น การเก็บข้อมูล การบันทึก การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น และได้ทดลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ได้แก่ การรับสมาชิกใหม่ การทบทวนความรู้ของหัวหน้าทีมวิจัย การทบทวนความเข้าใจของทีมวิจัย การให้พี่เลี้ยงมาให้คำแนะนำต่าง ๆ แม้อาจต้องใช้เวลาไปบ้าง แต่ก็อยากให้โครงการวิจัยครั้งนี้เป็นไปอย่างมีคุณภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหวังว่าชุมชนบางเลียบจะได้เรียนรู้ในระดับหนึ่งว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความตั้งใจอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเอง
วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ความต่อเนื่อง
เมื่อทำงานได้สักระยะก็ได้พบปัญหาอุปสรรคหลายประการ แต่ที่สำคัญคือเรื่องสมาชิกทีมวิจัยมีเวลาจำกัดในการเข้าร่วมดำเนินโครงการ ทำให้ขาดความต่อเนื่องเท่าที่ควร ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่องจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับปรุงทีมงานกันใหม่ โดยได้มีการชักชวนสมาชิกใหม่ที่นอกจากมีความสนใจแล้วก็จำเป็นต้องมีเวลามาร่วมงานกับเราด้วย ซึ่งก็ได้มีสมาชิกใหม่ที่แสดงความสนใจอยากเข้าร่วมงานกับเราแล้ว และต่อไปก็คงต้องมีการนัดประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และวางแผนการทำงานร่วมกัน
การดำเนินงานที่ผ่าน แม้จะมีการเว้นช่วงระยะเวลาไปบ้างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่โครงการจะต้องดำเนินการต่อไปและจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนในชุมชนบางเลียบให้ได้
การดำเนินงานที่ผ่าน แม้จะมีการเว้นช่วงระยะเวลาไปบ้างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่โครงการจะต้องดำเนินการต่อไปและจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนในชุมชนบางเลียบให้ได้
วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การแสวงหาคำตอบ
มีคำถามหลายคำถามที่ยังคงค้นหาคำตอบไม่ได้ แต่คงไม่ใช่แค่หัวหน้าหรือทีมวิจัยที่จะต้องเป็นคนค้นหาคำตอบต่าง ๆ เหล่านั้น ชาวบ้านหรือสมาชิกในชุมชนต้องมีส่วนร่วมในการหาคำตอบด้วย ดังนั้น หน้าที่ของทีมวิจัยจึงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งไม่ใช่มามีส่วนร่วมแค่เชิงปริมาณ แต่้ต้องเป็นการมีส่วนร่วมเชิงคุณภาพด้วย ซึ่งคงต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร แต่ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนทีมวิจัยก็จะเดินหน้าต่อไป เพราะการที่จะสร้างการมีส่วนร่วมนั้น เป็นทั้งวิธิีการและเป้าหมายของงานวิจัยครั้งนี้ ซึ่งจะผิดจะถูกคงไม่สำคัญ หากที่สำคัญที่ว่าชุมชนได้อะไร หรือเรียนรู้อะไรบ้าง และใครบ้างที่จะได้ประโยชน์ ซึ่งเป็นคำถามที่ทุกคนในชุมชนต้องหาคำตอบร่วมกันต่อไป
วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
การขับเคลื่อนงานวิจัย
เมื่อทำงานวิจัยมาได้ระยะหนึ่ง ก็ได้มีการสรุปบทเรียนจากสิ่งที่ได้จากการทำวิจัยครั้งนี้ ก็มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันของทึมวิจัย สรุปได้ว่ามีสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่สำคัญ คือ
1. การทำวิัจัยแบบมีส่วนร่วม ทำให้เราได้เรียนรู้การคิดและทำงานเป็นทีม แม้หัวหน้าทีมวิจัยจะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่ก็ต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างของทีมวิจัย รวมทั้งฟังความคิดเห็นของชาวบ้านด้วย ทำให้ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้รู้จักกันมากขึ้น
2. ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ทำให้คนในชุมชนเริ่มมีโอกาสได้มานั่งคุยกันมากขึ้น เกิดบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ แม้ช่วงแรกหลายคนที่มาร่วมประชุมจะไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อได้มาร่วมหลายครั้งก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็น ซึ่งหากมีการประชุมอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะทำให้คนในชุมชนของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้
3. มีการตั้งคำถามและอยากทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น ชาวบ้านที่ได้มาร่วมการประชุมเริ่มมีการตั้งคำถามว่าหากเราจะพัฒนาชุมชนของเราให้ดีขึ้นเราต้องทำอย่างไร ? ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อ ๆ ไป และจะนำไปสู่การค้นหาคำตอบร่วมกัน
4. ความสนุกสนาน เพราะพอมานั่งคุยกันนั้นแม้ช่วงแรกจะเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบากเพราะหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการประชุมได้อย่างไร แต่เมื่อได้มีการประชุมกันหลายครั้ง ก็เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้นทำให้มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง และมีการหยอกล้อกันมากขึ้น ทำให้บรรยากาศไปเครียด และทำให้ทุกคนได้สนุกร่วมกัน
จากที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วน ยังมีอะไรดีดีที่เกิดขึ้นหลายอย่าง หากมีโอกาสจะเล่าให้ฟังกันอีกนะ
1. การทำวิัจัยแบบมีส่วนร่วม ทำให้เราได้เรียนรู้การคิดและทำงานเป็นทีม แม้หัวหน้าทีมวิจัยจะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่ก็ต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างของทีมวิจัย รวมทั้งฟังความคิดเห็นของชาวบ้านด้วย ทำให้ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้รู้จักกันมากขึ้น
2. ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ทำให้คนในชุมชนเริ่มมีโอกาสได้มานั่งคุยกันมากขึ้น เกิดบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ แม้ช่วงแรกหลายคนที่มาร่วมประชุมจะไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อได้มาร่วมหลายครั้งก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็น ซึ่งหากมีการประชุมอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะทำให้คนในชุมชนของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้
3. มีการตั้งคำถามและอยากทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น ชาวบ้านที่ได้มาร่วมการประชุมเริ่มมีการตั้งคำถามว่าหากเราจะพัฒนาชุมชนของเราให้ดีขึ้นเราต้องทำอย่างไร ? ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อ ๆ ไป และจะนำไปสู่การค้นหาคำตอบร่วมกัน
4. ความสนุกสนาน เพราะพอมานั่งคุยกันนั้นแม้ช่วงแรกจะเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบากเพราะหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการประชุมได้อย่างไร แต่เมื่อได้มีการประชุมกันหลายครั้ง ก็เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้นทำให้มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง และมีการหยอกล้อกันมากขึ้น ทำให้บรรยากาศไปเครียด และทำให้ทุกคนได้สนุกร่วมกัน
จากที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วน ยังมีอะไรดีดีที่เกิดขึ้นหลายอย่าง หากมีโอกาสจะเล่าให้ฟังกันอีกนะ
วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
รายงานความก้าวหน้า
งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นของชุมชนบางเลียบดำเนินงานมากว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และกำลังคืบหน้าไปเรื่อย และตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือการถอดบทเรียนจากการวิจัยเพื่อทำสรุปรายงานความก้าวหน้าให้กับ สกว. ฝ่ายวิจัยท้องถิ่น ศูนย์ประสานงาน จ. พระนครศรีอยุธยา เป็นการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานวิจัยที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องการดำเินินงาน กระบวนการวิจัย และผลที่ได้จากการวิจัย แม้ยังไม่ปรากฎผลที่ชัดเจนนัก แต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่พอใช้ได้ แต่ก่อนที่จะเริ่มทำกิจกรรมต่อไป ก็ต้องสรุปรายงานนี้ให้เสร็จให้เร็วที่สุดเพื่อนำผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553
วันสงกรานต์เป็นวันสำคัญของชาวไทย เพราะเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศก็จะร่วมกันจัดงานเนื่องในวันสงกรานต์กันอย่างคึกคักทั่วประเทศ ชุมชนบางเลียบก็เป็นชุมชนหนึ่งที่มีการจัดงานดังกล่าว โดยทาง อบต. สวนพริกไทย ร่วมกับวัดเสด็จได้จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลประเพณี การจัดกิจกรรมการละเล่นต่าง ๆ การจัดรำวงย้อนยุค และการสรงน้ำพระ เป็นต้น ชาวชุมชนบางเลียบก็ได้มีการรวมตัวกันจัดกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมการประกวดขบวนแห่ปลา ซึ่งได้มีการประชุมวางแผนจัดกิจกรรมร่วมกัน ทั้งนี้โครงการวิจัยเพื่่อท้องถิ่น ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเตรียมการดังกล่าว ทำให้ได้รู้จักชุมชนมากขึ้น
วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553
เริ่มต้นก็สนุกแล้ว
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา เราได้มีการประชุมทีมวิจัยและทีมที่ปรึกษาโครงการวิจัยเืพื่อท้องถิ่นขึ้น ณ ห้องโสตทัศนศึกษา โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เช่น การอนุญาตให้ใช้สถานที่โดยคุณครูยุทธนา สืบสิงห์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ, การเข้าร่วมประชุมของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นตัวแทนจากสถาบันและองค์กรในพื้นที่ เป็นต้น ทำให้พวกเรารู้สึกดีใจและเป็นเกี่ยรติอย่างยิ่ง และขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้
การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นกับผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และเพื่อเป็นการบอกกล่าวก่อนที่จะเริ่มดำเนินกิจกรรมของโครงการในขั้นตอนต่อไป ในการนี้เราได้แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกัน ซึ่งนอกจากพวกเราแล้วก็มีทีมพี่เลี้ยงจาก สกว. ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น ศูนย์ประสานงาน จ. พระนครศรีอยุธยา มาร่วมด้วย โดยเป็นการพูดคุยอย่างเป็นกันเองไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร
มุมมองต่อปัญหาของชุมชนก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป เช่น ปัญหาทางสังคม ได้แก่ยาเสพติด ร้านเกมส์ หรือปัญหาเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาระหนี้สินชุมชน เป็นต้น แม้มุมมองต่อปัญหาจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่้กับประสบการณ์และบทหน้าที่ของแต่ละคน และการให้น้ำหนักหรือความสำคัญของปัญหานั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือการตระหนักถึงปัญหาของชุมชนหรือส่วนร่วม แต่ที่ผ่านมาอาจไม่ได้มีโอกาสมานั่งคุยกันนัก เมื่อมีโอกาสครั้งนี้จึงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างออกรสชาติพอสมควร
ทีมวิจัยได้รับฟังความคิดเห็นจากหลาย ๆ ท่านแล้ว ทำให้ยิ่งอยากทำงานวิจัยครั้งนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาของชุมชนแบบนี้ขึ้น ซึ่งคิดว่าจะเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงปัญหาและอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหานั้นนั่นเอง
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
การลงพื้นที่เก็บข้อมูล
การลงพื้นที่เพื่อสำรวจชุมชนนั้น ได้ดำเนินมากกว่า 3 เดือนแล้ว ทำให้ทีมวิจัยรู้จักชุมชนของตนเองขึ้นมาก ได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่แม้จะมีความลำบาก ยากจน แต่ก็มีส่ิงดีดีหลาย ๆ อย่าง เช่น การมีวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีความเรียบง่าย คนในชุมชนมีความรักความสามัคคี มีประเพณีการละเ่ล่นหลาย ๆ อย่าง แต่น้อยคนนักที่จะเห็นคุณค่าหรือความสำคัญ ดังนั้นทีมวิจัยจึงได้ปรึกษากันและวางแผนกันว่าต่อไปจะเริ่มมีการจัดกิจกรรมในชุมชนเพื่อ สร้างเวที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคนในชุมชน โดยหวังว่าจะเป็นเครืองมืออันหนึ่งที่จะทำให้สมาชิกในชุมชนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของความเป็นชุมชนที่มีมาแต่เดิมมากขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553
การเก็บข้อมูล
การวิจัยชุมชนบางเลียบได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงของการสำรวจชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลพื้นฐาน และพูดคุยกับสมาชิกชุมชน ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากสมาชิกชุมชนด้วยดี เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
เมื่อเราลงพื้นที่ได้สักระยะหนึ่งก็ค้นพบประเด็นเพิ่มเติมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นมาของชุมชน อาชีพดั้งเดิม ความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน และทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่ามาจากสาเหตุอะไรบ้าง ซึ่งทำให้พวกเรารู้และมีความเข้าใจความเป็นชุมชนของชุมชนนี้มากขึ้น ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้เราก็จะได้รวบรวมไว้ และนำมาใช้ประโยชน์ต่อไป
ขณะนี้นอกจากลงพื้นที่แล้ว เราได้ทำการสำรวจข้อมูลความจำเป็นพื้นฐานของครัวเรือน หรือ จปฐ. ด้วย ซึ่งกรมพัฒนาชุมชนและองค์การบริหารส่วนตำบลสวนพริกไทย ได้มาขอความร่วมมือให้ทีมวิจัยเก็บข้อมูล ซึ่งทางทีมวิจัยก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะเราต้องพบปะกับสมาชิกในชุมชนเป็นประจำอยู่แล้ว เราจึงรับมาดำเนินการ และได้ดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็ทำให้เราได้รับทราบข้อมูลเพิื่มเติมยิ่งขึ้น และมีประโยชน์ต่อพวกเรามาก เพราะหากเราดำเนินเรื่อง จปฐ. แล้ว เราก็จะมีการเชิญสมาิชิกชุมชนประชุมเพื่อพูดคุยถึงข้อมูลที่เราได้มา เพื่อเป็นการคืนข้อมูลให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้ตระหนักถึงปัญหาต่าง ๆ และเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้การจัดเก็บ จปฐ. เรียบร้อยด้วยดี หากมีความคืบหน้าจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)